หลังจากที่ลองหาดูว่าค่าใช้จ่ายในการชื้อทัวร์ไปดูลิเวอร์พูลแข่งราคาค่อนข้างสูง ที่นี้เราก็เลยลองมาคำนวณค่าให้จ่ายถ้าเราจะเดินทางไปดูบอลคนเดียวนั้นจะราคาประมาณเท่าไร
จากการวางแผนไว้ผมตั้งใจจะไปประมาณ 15 วัน เพื่อจะได้ให้เจอ แมทลิเวอร์พูลแข่งในบ้าน 2 ครั้ง คือ 2 เสาร์ เผื่อมีสาเหตุให้พลาดไปเสาร์นึงก็ยังมีอีกเสาร์นึงรออยู่ จะได้ไม่เสียเที่ยว
ค่าวิช่า Standard Visitor Short-term (up to 6 months, single or multiple entry)
117 US ( อ่านต่อ ) ประมาณ 4300 บาท +อื่นๆ = 6,500
ตั่วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - ลอนดอน ประมาณ 20000 บาท +อื่นๆ = 25,000 บาท ข้อมูลจาก skyscanner.com
ที่พัก london กับ liverpool คืนละ 1000 บาท 15 คืน 15000 บาท +อื่นๆ = 20,000 บาท ข้อมูลจาก booking.com
ค่าตั๋วฟุตบอลลิเวอร์พูล ประมาณ 7,000 บาท ข้อมูลจาก ticketbis.com
ค่าอาหาร วันละ 1000 บาท 15 วัน 15,000 +อื่นๆ = 20,000 บาท จากการประมาณของตัวเอง
ค่าเดินทาง และค่าเข้าชมที่เที่ยวอื่น 15,000 บาท จากการประมาณของตัวเอง
ค่าประกันการเดินทาง 15 วัน 1,800 บาท
และค่าอื่นๆอีก 20,000 บาท
รวมแล้วประมาณ 115,300 บาท
ดูราคาแล้วแพงมากแต่ผมก็เผื่อไว้เยอะมาก ถ้าเดินทางจริงๆ คงน่าจะน้อยความนี้มาก
บล็อกนี้ผมทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลและบันทึกการเดินทางตามหาความฝันในการที่จะไปดูลิเวอร์พูลแข่งที่สนามแอนฟิลด์ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559
สร้างประวัติการเดินทางเพื่อให้ง่ายต่อการขอวีช่า
การขอวีช่าไปอังกฤษสำหรับผมถือว่าค่อนข้างยากเพราะผมไม่เคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมาก่อนเลย จะเดินตรงๆไปขอวีช่าคงจะไม่ผ่านแน่ๆเลย แล้วผมก็ลองค้นหาข้อมูลจากคนที่เคยของวีช่าไปอังกฤษแล้วเขาก็บอกว่าถ้ามีประวัติการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆจะทำให้ขอวีช่าได้ง่ายขึ้น
ผมก็เลยคิดว่าผมจะต้องสร้างประวัติการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆบ้านเราก่อน ไปประเทศที่ไม่ต้องขอวีช่าเข้าประเทศ สามารถเดินทางเขาไปเที่ยวได้เลย ประเทศที่ผมวางแผนไว้สำหรับการสร้างประวัติการเดินมีประมาณ 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น น่าจะเพียงพอสำหรับการสร้างประวัติการเดินทาง สาเหตุที่ผมเลือกเอา 3 ประเทศนี้ มันมีเหตุผลนะ
สิงคโปร์ อยู่ใกล้บ้านเราไม่ต้องขอวีช่า ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับก็ไม่แพง เป็นประเทศที่ปลอดภัยมาก มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวเยอะ แล้วยังใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เป็นการฝึกภาษาได้ดีที่เดี่ยว และค่าใช้จ่ายน่าจะน้อยที่สุด
ฮองกง เป็นประเทศที่ผมอยากจะเดินทางไปเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ และใช้เงินไม่มากเท่าไร น่าจะพาหาได้
ญี่ปุ่น น่าจะเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณในการท่องเที่ยวมากกว่า สิงคโปร์ กับ ฮองกง แต่ก็ควรจะไปเที่ยวดู ไม่คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามจำนวนมาก ผมอยากจะไปลองสัมผัส หิมะ สักครั้ง และอยากจะไปดูฟุตบอลเจลีกแข่งด้วย
ทั้ง 3 ประเทศนี้คงน่าจะเพียงพอกับการสร้างประวัติการเดินทาง แต่อาจจะมีเพิ่มอีกประเทศคือ ประเทศพม่า อยู่อยากจะไปไหว้เจดีย์ชเวดากอง สักครั้งนึง แต่ 3 ประเทศแรกคงจะไปแน่นอนตั้งงบการท่องเที่ยวครั้งนี้ไว้ประมาณ 50,000 บาท คงน่าจะเพียงพอ แถวแบบประหยัดเอาแล้วกัน
ผมก็เลยคิดว่าผมจะต้องสร้างประวัติการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆบ้านเราก่อน ไปประเทศที่ไม่ต้องขอวีช่าเข้าประเทศ สามารถเดินทางเขาไปเที่ยวได้เลย ประเทศที่ผมวางแผนไว้สำหรับการสร้างประวัติการเดินมีประมาณ 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น น่าจะเพียงพอสำหรับการสร้างประวัติการเดินทาง สาเหตุที่ผมเลือกเอา 3 ประเทศนี้ มันมีเหตุผลนะ
สิงคโปร์ อยู่ใกล้บ้านเราไม่ต้องขอวีช่า ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับก็ไม่แพง เป็นประเทศที่ปลอดภัยมาก มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวเยอะ แล้วยังใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เป็นการฝึกภาษาได้ดีที่เดี่ยว และค่าใช้จ่ายน่าจะน้อยที่สุด
ฮองกง เป็นประเทศที่ผมอยากจะเดินทางไปเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ และใช้เงินไม่มากเท่าไร น่าจะพาหาได้
ญี่ปุ่น น่าจะเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณในการท่องเที่ยวมากกว่า สิงคโปร์ กับ ฮองกง แต่ก็ควรจะไปเที่ยวดู ไม่คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามจำนวนมาก ผมอยากจะไปลองสัมผัส หิมะ สักครั้ง และอยากจะไปดูฟุตบอลเจลีกแข่งด้วย
ทั้ง 3 ประเทศนี้คงน่าจะเพียงพอกับการสร้างประวัติการเดินทาง แต่อาจจะมีเพิ่มอีกประเทศคือ ประเทศพม่า อยู่อยากจะไปไหว้เจดีย์ชเวดากอง สักครั้งนึง แต่ 3 ประเทศแรกคงจะไปแน่นอนตั้งงบการท่องเที่ยวครั้งนี้ไว้ประมาณ 50,000 บาท คงน่าจะเพียงพอ แถวแบบประหยัดเอาแล้วกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)